สามเกลอรีมิกซ์ 2 / สามเกลอข้ามมิติ ตอนที่ 3
3 / พระเจ้าสุริยะ
หลวงโอสถสภาเดินนำคณะพรรคไปตามทางเดินภายใต้ภูเขา ดร.ดิเรกมหัศจรรย์ใจอย่างมากเมื่อทราบว่าเกาะนี้เป็นเกาะที่เกิดน้ำมือมนุษย์สร้างขึ้น ทางเดินจากอาคารของหลวงโอสถสภาปูลาดด้วยศิลาแลงแผ่นใหญ่ สองข้างทางเขียวชะอุ่มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ การตกแต่งเลียนแบบธรรมชาติอันงดงามของของเกาะมหัศจรรย์แห่งนี้ทำให้คณะพรรคค่อยคลายความกังวลใจและความคิดถึงบ้านของตนเอง เบื้องหน้านั้นเป็นอาคารทรงไทยหลังใหญ่มีกำแพงล้อมรอบด้านนอกรวมทั้งทหารยามที่หน้าประตูมีอาวุธครบมือ คณะพรรคเดินเกาะเอวตามกันเป็นพรวน เมื่อใกล้เข้ามาทหารยามต่างพรวดพราดคว้าปืนขึ้นมาเล็งทันที
เฮ้ย ๆ ๆ ๆ อะไรกันเว้ย ไม่เอาเว้ย อย่าเล่น ๆ อย่าเล็งมาทางนี้เดี๋ยวผีผลัก อาเสี่ยร้องลั่น
หลวงโอสถสภา โบกมือให้ทหารยาม
ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร ผู้กองมาโนชช่วยบอกลูกน้องของคุณลดปืนลงได้แล้ว พวกท่านเหล่านี้ไม่ใช่ตัวจริง แต่ท่านจะมาช่วยพวกเรา ผมขอรับรอง
นายทหารหนุ่มนามมาโนชกระพริบตาถี่ ๆ มองหน้าคณะพรรคไปมาสลับกับมองหน้าหลวงโอสถสภา
ไม่ใช่แน่นะครับคุณหลวง ถ้าเช่นนั้นผมขออณุญาติตรวจค้นอาวุธก่อน
หลวงโอสถสภาพยักหน้าแล้วผายมือเชิญ ทหารยามสามคนเดินเข้ามาตรวจอาวุธคณะพรรคด้วยการลูบมือไปตามตัว เจ้าคุณปัจจนึก ฯ จั๊กจี้หัวเราะคิกคักตัวงอไปมาเมื่อทหารยามจับที่เอวของท่าน เพียงครู่เดียวทหารยามทั้งหมดก็หันไปพยักหน้ากับผู้กองมาโนช
ขอบคุณมากครับที่ให้ความร่วมมือ ทุกท่านไม่มีอาวุธใด ๆ ติดตัวมา ผมเชื่อแล้วว่าพวกท่านไม่ใช่ตัวจริง ผู้กองมาโนชมองหน้าคณะพรรคทีละคนพลางยิ้มเล็กน้อย
แต่ผมยอมรับว่า พวกท่านทุกคนนั้นเหมือนจริง ๆ ขอเชิญเข้าไปได้แล้วครับ ในขณะที่ท่านเดินเข้าไป ผมจะวิทยุทูลพระองค์ท่านล่วงหน้าครับ และจะให้ทหารยามเหล่านี้เดินไปกับท่านเพื่อดูแลท่านไปตลอดทางครับ
คณะพรรคกล่าวขอบคุณผู้กองมาโนชแล้วเดินตามหลวงโอสถสภาผ่านเข้าประตูที่มีเครื่องหมายรูปดวงอาทิตย์ดวงใหญ่เข้าไป
ที่นี่เป็นพระตำหนักลี้ภัยของพระเจ้าสุริยะ พระประมุขของเรา หลวงโอสถสภาอธิบายให้คณะพรรคฟัง
ทำไมพระองค์ท่านต้องลี้ภัยเล่าครับ แล้ววังหลวงของท่านอยู่ที่ไหน พลกล่าวถาม
มันมีปัญหาทางการเมืองครับ ท่านเลยต้องหนีออกจากวังหลวงของท่านที่พิษณุโลกมาอยู่ที่นี่
หมายความเมืองหลวงของประเทศสยามในมิตินี้คือจังหวัดพิษณุโลก เจ้าคุณปัจจนึก ฯ เอ่ยด้วยความฉงนใจ
ถูกต้องครับ แต่เราทราบว่าเมืองหลวงของพวกท่านตั้งอยู่ที่ตำแหน่งเดียวกับเมืองทณบุรีของเรา หลวงโอสถสภาอธิบายต่อ
หลังเสียกรุงครั้งที่ 2 เมื่อมิติถูกแยกออกมา ในด้านของเราพระยาพิษณุโลกได้อพยพผู้คนหลบหนีสงครามขึ้นมาที่พิษณุโลกอันเป็นหัวเมืองฝ่ายเหนือซึ่งไม่ได้ถูกพม่าเผาทำลายเหมือนกรุงศรีอยุธยา ซ่องสุมผู้คนและตั้งบ้านเรือนกู้ชาติกันมาเป็นเวลา 15 ปี จึงตั้งราชวงศ์พิษณุโลกขึ้นมาโดยมีลัญญลักษณ์เป็นของราชวงศ์เป็นพระอาทิตย์ เราขนานพระนามของพระมหากษัตริย์ของเราทุกพระองค์ว่าพระเจ้าสุริยะ เอาละครับถึงตำหนักของท่านแล้ว
ทหารที่เดินมาพร้อมกับคณะพรรคนายหนึ่งเดินเข้าไปข้างในก่อนเพื่อแจ้งให้ฝ่ายรักษาอารักขาทราบ ชั่วครู่ก็เดินออกมาเชิญคณะพรรคเข้าไป
ภายในตำหนักนั้น ชายร่างสูงวัยกลางคนท่าทางสง่างามแต่แววตาเต็มไปด้วยความเศร้าหมองนั่งอยู่ที่เก้าอี้รับแขก ท่านคือพระเจ้าสุริยะเจ้าเหนือหัวของประเทศสยาม พลสังเกตุว่าพระองค์ทรงสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเงยพระพักต์เห็นคณะพรรค แต่เมื่อทรงทอดพระเนตรเห็นหลวงโอสถสภาก็ทรงแย้มพระโอษฐ์ หลวงโอสถสภาเดินเข้าหาพระเจ้าสุริยะโค้งคำนับถวายความเคารพ
ขอเดชะ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ข้าพระพุทธเจ้าขอพระบรมราชาณุญาตินำคณะของ ดร.ดิเรกมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าข้า พระเจ้าสุริยะทรงพยักพระพักต์ช้า ๆ
ขอเชิญทุกท่านมานั่งที่นี่ก่อนเถิด พระเจ้าสุริยะรับสั่งเชิญ คณะพรรคโค้งคำนับถวายความเคารพก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้อย่างสำรวม
พระเจ้าสุริยะทรงประทับนั่งลงเบื้องหน้าของคณะพรรค เบาหวิวกับสมส่วนเดินถือสมุดคนละเล่มเข้ามาถวาย ก่อนจะถอยไปยืนอยู่ห่าง ๆ พระเจ้าสุริยะพลิกหน้าหนังสือไปมาสักครู่ทรงถอนพระทัยเบา ๆ แล้วจึงเงยพระพักต์ขึ้นมาตรัสกับคณะพรรค
หลวงโอสถสภาคงอธิบายเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับโลกของเราให้ทุกท่านฟังแล้วใช่ไหม
เล่าแล้วพระพุทธเจ้าข้า แต่ว่ายังไม่ได้บอกให้พวกกระหม่อมว่านำพวกกระหม่อมมาที่นี่ทำไม คุณหลวงบอกว่าพระองค์จะทรงอธิบายให้ฟังพระพุทธเจ้าข้า เจ้าคุณปัจจนึก ฯ กราบทูล
เราจะเล่าให้ฟัง ประเทศสยามของเรานี้เดิมเราปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช จนเมื่อการติดต่อกับชาติตะวันตกมีมากขึ้นเรื่อย ๆ สยามก็ส่งคนไปเรียนต่อต่างประเทศมากมาย เพื่อไปศึกษาวิทยาการใหม่ ๆ เอามาพัฒนาประเทศ เหล่านักเรียนนอกเหล่านั้นได้รับแนวความคิดปการปกครองแบบประชาธิปไตยมาจากเมืองนอก จนวันหนึ่งเมื่อกว่าสามสิบปีมาแล้วในสมัยสมเด็จพ่อของข้าพเจ้า พระองค์ท่านได้ร่วมมือกับเหล่านักเรียนนอกเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองใหม่เป็นประชาธิปไตยสมบูรณาญาสิทธิราช โดยพระมหากษัตริย์อยู่ใต้กฏหมายแต่ยังมีสิทธิและพระราชอำนาจเต็มพร้อมเช่นเดิม เพียงแต่พระราชอำนาจนั้นจะต้องไม่ขัดกับกฏหมายเท่านั้น สมเด็จพ่อของข้าพเจ้าทรงสละพระราชบัลลังก์ภายใต้เศวตฉัตรเดิมและทำการราชาภิเษกภายใต้เศวตฉัตรใหม่ แต่ความหวังของพระองค์ที่จะเห็นประเทศสยามของเราก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกลับต้องพังทลายลง เมื่อเหล่าบรรดานักเรียนนอกเหล่านั้นได้ใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ไปในทางที่มิชอบ โกงกินฉ้อราษฎร์บังหลวง ร่ำรวยกันถ้วนหน้าแต่ประชาชนกลับยากจนลงเรื่อย ๆ ประเทศชาติไม่ได้เจริญขึ้นเลยสักนิด สมเด็จพ่อพยายามต่อสู้ในทางลับเพื่อให้ประเทศชาติก้าวเดินต่อไปแต่ก็ไม่อาจจะสู้กับพวกนั้นได้ ซ้ำร้ายพวกนั้นกลับยิ่งย่ามใจ นำพาพวกนักธุรกิจจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศกอบโกยเงินทองและทรัพยากรต่าง ๆ ออกนอกประเทศไปจนหมด คนสยามไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของกิจการ เนื่องจากระบบการผูกขาดการค้าและในไม่ช้าระบบเศรษฐกิจทั้งหมดก็ตกอยู่ในมือต่างชาติ กระแสวัฒนธรรมใหม่ ๆ หลั่งไหลเข้ามาในประเทศเหมือนกับน้ำบ่า หนุ่มสาวของเราลืมไปแล้วว่าตนเองเป็นชนชาติไหน เดินตามก้นฝรั่งตาน้ำข้าวทุกย่างก้าว สมเด็จพ่อทรงต่อสู้จนหมดหวังทรงตรอมพระทัยและสิ้นพระชนม์ไปในที่สุด
คณะพรรคทรงประทับนั่งนิ่งเหมือนหุ่น ต่างก็ไม่คิดว่าประเทศสยามในอีกมิติหนึ่งนั้นช่างไม่แตกต่างกันเลยกับประเทศไทยที่คณะพรรคเดินทางมา พระเจ้าสุริยะทรงถอนพระทัยพร้อมกับเบือนพระพักต์ซ่อนน้ำพระเนตรไว้ สายพระเนตรทอดยาวไกลออกนอกพระบัญชรอย่างไร้จุดหมาย
ข้าพเจ้าขึ้นครองราชย์เมื่อห้าปีก่อน ทุกข์เข็ญต่าง ๆ ของประชาชนหนักอึ้งเต็มสองบ่า ข้าพเจ้าโชคดีที่ได้หลวงโอสถสภาซึ่งเป็นเพื่อนเรียนร่วมกันมาตั้งแต่เล็กเป็นเพื่อนสนิทคอยเป็นคู่คิดคู่ปรึกษาตลอดมา พวกนั้นเมื่อเข้าครอบครองเศรษฐกิจต่าง ๆ ทั่วประเทศได้แล้ว มันเริ่มตั้งพรรคการเมืองของมันแล้วโกงการเลือกตั้งด้วยการซื้อเสียงจนได้เป็นเสียงข้างมากในสภาและได้จัดตั้งรัฐบาล จากนั้นมันก็เริ่มเข้าครอบครองกองกำลังทหารตำรวจสั่งโยกย้ายปรับเปลี่ยนนายทหารและนายตำรวจที่ไม่เห็นด้วยกับการปกครองของมันออกจากตำแหน่งและแต่งตั้งพวกพ้องเข้าไปทำหน้าที่ต่าง ๆ แทนและในที่สุดมันก็สามารถควบคุมกองกำลังทั้งหมดได้ โดยมีนายทหารยศจอมพลคนหนึ่งเข้ามาเป็นพวกของมันสร้างอิทธิพลแผ่ครอบคลุมไปทั่ว และสุดท้ายมันก็รวมกำลังกันปฏิวัติโค่นล้มราชบัลลังก์ของข้าพเจ้า สถาบันกษัตริย์สถาบันสุดท้ายที่เป็นที่พึ่งของประชาชนล่มสลายลงจากน้ำมือของพวกมัน ณ วันนี้ไม่มีพระมหากษัตริย์ในประเทศสยาม มันตั้งตนเป็นประธานาธิบดีแทน ข้าพเจ้าต้องลี้ภัยออกต่างประเทศโดยการช่วยเหลือของหลวงโอสถสภา แล้วแกล้งให้ข่าวว่าข้าพเจ้าตายเสียแล้ว แต่แท้จริงแล้วข้าพเจ้ามิได้ไปที่ไหนไกลเลยหลวงโอสถสภานำข้าพเจ้ามาที่เกาะแห่งนี้ ซึ่งมิได้เป็นเกาะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เป็นเกาะประดิษฐ์ที่ข้าพเจ้าและหลวงโอสถสภาได้ร่วมกันสร้างมาตั้งแต่สมัยที่ข้าพเจ้าเป็นรัชทายาท เราได้ติดต่อกับนายทหารเก่า ๆ ที่เคยทำงานร่วมกันมาสมัยที่สมเด็จพ่อยังทรงพระชนม์ให้มาอยู่ร่วมกันที่นี่ รวมทั้งหนุ่มสาวประชาชนที่รับกับการปกครองของพวกมันไม่ได้แอบเข้ามาอยู่ที่นี่มากมาย
ขอเดชะ เท่าที่กระหม่อมมองดู กระหม่อมไม่เห็นมีคนมากมายอย่างที่พระองค์ทรงตรัสเมื่อครู่เลย ดร.ดิเรกถวายบังคมถาม พระเจ้าสุริยะทรงพยักพระพักต์
ถูกต้องแล้ว พวกเขาเหล่านั้นอาศัยอยู่ในกองบัญชาการใต้ดิน เราจึงไม่อาจเห็นเขาได้ พวกเขาเหล่านี้ร่วมมือกันจัดตั้งองค์กรลับขึ้น เรียกว่า ร.ส.ช.
ไอ๊ย่า อาเสี่ยเผลออุทาน ก่อนที่จะรีบเอามืออุดปากตัวเองแล้วรีบพนมมือถวายบังคมประหลก ๆ อย่างลืมตัว
ขอพระราชทานอภัยโทษพระพุทธเจ้าข้า กระหม่อมรู้สึกแปลก ๆ กับชื่อย่อนี้พระพุทธเจ้าข้า จึงเผลอตัวร้องออกไปพระพุทธเจ้าข้า
มิเป็นไรหรอกคุณกิมหงวน ข้าพเจ้าเองก็ทราบว่าท่านค่อนข้างจะมีปัญหากับชื่อย่อนี้ ร.ส.ช. ของข้าพเจ้าย่อมาจาก องค์การรักษาสยามชั่วนิรันดร์
คณะพรรคถอนหายใจเฮือกอย่างโล่งอก
ข้าพระพุทธเจ้าหวังว่าหัวหน้าองค์กรนี้คงจะไม่ใส่เสื้อคับ ๆ รัดตัวนะพระพุทธเจ้าข้า อาเสี่ยทูลถามพระเจ้าสุริยะ
ไม่หรอกคุณกิมหงวน หัวหน้าองค์กรนี้คือหลวงโอสถสภานั่นเอง นี่คือสาเหตุที่ข้าพเจ้าส่งเบาหวิวไปรับตัวพวกท่านมาที่นี่ พระเจ้าสุริยะทรงพระสรวลเบา ๆ ทรงเริ่มพอพระทัยในคณะพรรคของเราแล้ว
ขอเดชะ ฯ กระหม่อมก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดพระองค์จึงเลือกพวกกระหม่อมและทรงประสงค์จะให้พวกกระหม่อมถวายงานอย่างไรแด่พระองค์พระพุทธเจ้าข้า เจ้าคุณปัจจนึก ฯ ทูลถาม
พระเจ้าสุริยะทรงเลื่อนหนังสือ 2 เล่มให้คณะพรรค พลหยิบขึ้นมาเปิดดูแล้วทำหน้าตกใจ
เอ๊ะ
เจ้าคุณปัจจนึก ฯ หันมามองนายพัชราภรณ์
อะไรหรือเจ้าพล อ้ายเสือรูปหล่อยื่นหนังสือเล่มนั้นให้เจ้าคุณปัจจนึก ฯ ดู
คุณอาดูสิครับ ในหนังสือเล่มนี้ทำไมมีแต่รูปพวกเราทั้งนั้น
เจ้าคุณปัจจนึก ฯ พลิกหน้าหนังสือไปมาด้วยความสนเท่ห์ใจ ท่านหยิบหนังสืออีกเล่มขึ้นมาพลิกดูก็พบแต่รูปของคณะพรรคในเครื่องแบบแปลกตาทั้งนั้น
ขอเดชะ ฯ ทำไมในหนังสือเหล่านี้มีรูปของพวกเกล้ากระหม่อมได้พระพุทธเจ้าข้า
หลวงโอสถสภาเดินเข้ามายืนตรงถวายคำนับก่อนที่จะนั่งลงต่อหน้าคณะพรรค
กระหม่อมขอพระราชาณุญาติอธิบายเรื่องนี้เองพระพุทธเจ้าข้า ท่านคงจะจำได้ว่าก่อนที่เราจะเดินทางมานี้ผมได้อธิบายไว้ว่าอาจจะมีบางสิ่งที่เหมือนกันเกิดขึ้นในโลกต่างมิติกันได้ ซึ่งในทางทฤษฎี้นั้นเป็นไปได้ยากมาก แต่ในความเป็นจริงมันก็สามารถเกิดขึ้นได้ บุคคลต่าง ๆ ที่ท่านเห็นในรูปเหล่านี้ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในความเป็นจริง บุคคลที่หน้าตาเหมือนกับท่านเหล่านี้คือคณะก่อการปฏิวัติทั้งหมด
หลวงโอสถสภาชี้นิ้วไปที่รูปแต่ละใบ
นี่คือพลโทพลควบคุมกองกำลังกองทัพบก พลโทนิกรควบคุมกองกำลังกองทัพเรือ พลโทกิมหงวนควบคุมกองกำลังกองทัพอากาศและพลโทดิเรกควบคุมกองกำลังตำรวจ
อาเสี่ยหัวเราะคิกยกศอกกระทุ้งสีข้างนายจอมทะเล้น
เอ้อเหอเว้ยอ้ายกร ไหงเรามีอำนาจขนาดนี้เชียววะ
หลวงโอสถสภาชี้ไปที่อีกรูปหนึ่ง
นี่คือพลเอกอู๊ด เป็นที่ปรึกษาคณะปฏิวัติ คณะพรรคมองดูรูปพลเอกอู๊ด ซึ่งก็คือเจ้าคุณปัจจนึก ฯ นั่นเอง นายจอมทะเล้นมองรูปภาพสลับกับมองเจ้าคุณปัจจนึก ฯ แล้วอมยิ้ม ท่านเจ้าคุณขยับเท้าไปมาทำให้นายจอมทะเล้นเบรคยิ้มอย่างเร็วแกล้งเสหันไปมองทางอื่นพร้อมผิวปากหวือ
และนี่คือ จอมพลแห้ว ผู้เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติโค่นล้มพระราชบัลลังก์และตอนนี้เป็นประธานาธิบดีแห่งประเทศสยาม
คณะพรรคหัวเราะครืน นายพัชราภรณ์พูดกลั้วหัวเราะ
โอย ตายแน่สยามประเทศ ลองเอาอ้ายแห้วนี่เป็นประธานาธิบดี มันคงได้ส่งเสริมให้ประชาชนปลูกกัญชาเป็นสินค้าส่งออกเป็นแน่ เออ นึกออกแล้ว ถึงว่าสิครับ ใคร ๆ รวมทั้งคุณหลวงก็เรียกเจ้าแห้วว่าท่านจอมพล
คณะพรรคหัวเราะชอบใจแม้กระทั่งพระเจ้าสุริยะก็ทรงพระสรวลมีเพียงเจ้าแห้วที่ทำหน้ากะเรี่ยกะราดเหมือนอมบรเพ็ดก็ไม่ปาน บรรยากาศที่เคร่งเครียดในห้องนั้นเริ่มดีขึ้น หลวงโอสถสภากล่าวยิ้ม ๆ
ผมก็หวังจะขอความร่วมมือจากท่านในการกู้ชาติกู้ราชบัลลังก์คืน เพราะมีแต่ท่านทั้งหมดนี้เท่านั้นที่จะแทรกตัวเข้าไปในกลุ่มของพวกมันได้ โดยที่พวกมันไม่สงสัย
คุณหลวงหมายความว่าจะให้พวกเราเข้าไปทำลายแผนของมันอย่างนั้นใช่ไหมครับ ดร.ดิเรกเอ่ยถาม
หลวงโอสถสภายิ้มด้วยความรู้สึกยินดี
ใช่แล้วครับคุณหมอใช่แล้วครับ
คณะพรรคหันมามองหน้ากันในเชิงปรึกษา ภายในห้องเงียบกริบไปชั่วครู่ ก่อนที่เจ้าคุณปัจจนึก ฯ จะเอ่ยขึ้น
ตกลงครับ ในฐานะที่เราเป็นคนไทยด้วยกันพวกเรายินดีช่วยครับ ไทยรักไทยชาติไทยต้องเป็นชาติพัฒนาเพื่อประชาธิปัตย์และราษฎรอยู่แล้วครับ
พระเจ้าสุริยะทรงตรัสกับคณะพรรค
ขอบคุณทุกท่านมาก เราจะไม่ลืมพระคุณทุกท่านเลย
เป็นไรมิได้พระพุทธเจ้าข้า พวกกระหม่อมเต็มใจพระพุทธเจ้าข้า พวกเกล้ากระหม่อมจะปลอมตัวเข้าไปทำลายแผนของมันให้ได้พระพุทธเจ้าข้า เจ้าคุณปัจจนึก ฯ ทูล
ไม่ต้องปลอมตัวก็ได้ พวกท่านเหมือนอยู่แล้วครับ - ไม่ต้องปลอม หลวงโอสถสภากล่าวด้วยความดีใจ
โดยคุณ : สมนึก สมนาค 415 -
[ 24 พ.ย. 2002 , 10:07:32 น. ]
|