ตอบ
ผมเองล่ะ แหะๆ ตัวตั้งตัวตีให้เกิดหัวข้อนี้...
ก็เลยถือโอกาสนี้ เข้าสู่วันที่ 25 กันยายน (เวลาตีสามกว่า) กล่าวถึง 34 ปี แห่งการจากไป ของ ลุง ป.อินทรปาลิต เสียหน่อย
ผมเกิดหลังจากลุง ป. ท่านเสียไป ราวๆ เกือบ 1 ปี และกว่าจะได้รู้จักสามเกลอ ก็ผ่านไปอีก 10 ปีละมั้งครับ ตอนนั้นเรียน ป.6 หรือไงนี่ล่ะ แล้วเข้าไปห้องของอา คือชอบไปหาหนังสือในห้องอาอ่าน แล้วเจอสามเกลอตอน "บ้านผีสิง" เห็นหน้าปกเป็นการ์ตูน ก็คิดว่าคงสนุก เปิดอ่านไปเรื่อยๆ เออนะ มันสนุกจริงๆ ด้วย นั่นคือการได้รู้จัก ลุง ป. ครั้งแรกของผม
จากนั้นก็หาอ่านเรื่อยมา เดินเทิ่งๆ จากห้วยขวาง ผ่านตลาดห้วยขวาง ไปถึงแยกโค้งจะไปสุทธิสาร เพื่อเช่าหนังสือสามเกลอมาอ่าน สมัยก่อนเดินสบายมาก เพราะยังไม่มีถนนรัชดาเหมือนตอนนี้ นานๆ จะมีรถวิ่งเข้าไปห้วยขวางสักคันหนึ่ง บางทีขากลับเดินผ่านตลาดห้วยขวาง ก็จะมีหนังสือแบกะดินขายด้วย ก็มีสามเกลอขายเล่มละสามบาท (ของผดุงศึกษา) จำได้แม่นว่า เคยซื้อศาลาโกหกมาด้วยจากแผงนี้ แต่อ่านแล้วไม่ชอบ มีสามเกลอนิดเดียวเอง นี่ยังนึกเสียดายไม่หาย... โถ น่าจะเก็บไว้นะนั่น
หรือบางทีก็จะเดินไปทางเขตห้วยขวาง ก็จะมีร้านเช่าหนังสือเช่นกัน มีสามเกลอแยะพอประมาณ จะสังเกตว่า ร้านเช่าหนังสือสมัยก่อน จะต้องมีสามเกลอประดับร้านไว้เสมอ ไม่ว่าร้านนั้นจะเล็กแค่ไหนก็ตาม
จำได้อีกว่า เคยซื้อสามเกลอมาเล่มนึง ชื่อตอนว่ารวมดาราหรือไงนี่ล่ะ เป็นตอนที่เสี่ยหงวนจะสร้างหนังแล้วไปเจอดารามากมาย เช่น ล้อต๊อก รู้สึกว่าตอนนี้จะหายากในปัจจุบัน เช่นกัน
ต่อมาเรียนมัธยมต้น ก็เริ่มมีเงินซื้อสามเกลอใหม่ๆ ได้เอง ร้านประจำคือร้าน ธมบุ๊คซาลอง ชื่อแปลกไหมล่ะครับ ร้านนี้จะอยู่ตรงแยกสุทธิสาร ถ้ามาจากวิภาวดีด้านเซ็นทรัลลาดพร้าว ก็มาถึงแยกแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าห้วยขวางนั่นแหละ ร้านจะอยู่เลยเข้ามาหน่อยนึง มีป้ายร้านและมีลายเซ็น เชิด ทรงศรี อันเบ้อเร้อติดหน้าร้านด้วย สงสัยว่าคงเป็นร้านของ เชิด ทรงศรี กระมัง ซึ่งร้านนี้จะมีสามเกลอแยะมาก ตอนนั้นจะมีของ ผดุงศึกษา , บันดาลสาส์น, บรรณกิจ, ประพันธ์สาส์น แยะมากๆ โดยเฉพาะของประพันธ์สาส์นที่ผมได้ซื้อมาอ่านตอนนั้น แล้วก็ไม่มีการพิมพ์ออกมาอีกเลยจนบัดนี้ เช่นเรื่องไส้โค, ริโออาโก, เฮโรอีน (แต่บางเรื่องแสงดาวจะมาพิมพ์ใหม่แล้ว)
แต่กำลังจะบอกว่า สามเกลอที่ผมซื้อหามานั้น หายไปเรียบแล้ว อิอิ.. เนื่องจากย้ายบ้านบ่อยมาก สามสี่หน ย้ายทีก็หายที อีกทั้งไม่คิดจะเก็บสะสมด้วย
มาถึงตอนนี้ก็เริ่มสะสมใหม่ หาซื้อตามแบกะดินบ้าง ตามห้างบ้าง สั่งซื้อตามเวบบ้าง คาดว่าตอนนี้มีราวๆ เกือบร้อยเล่มแล้ว ก็เป็นพวกพิมพ์ใหม่เสียทั้งนั้นแหละ ไอ้จะหาของเก่าๆ ก็คงยาก บางเล่มคงผุหมดแล้ว ไม่ก็ขายแพงเว่อร์เกินเหตุ
แต่ก็แปลกว่า ... อ่านสามเกลอมา 20 กว่าปี ไม่เคยนึกถึงเลยว่า คนแต่งเนี่ย เขาเป็นใคร รู้แต่ว่าคงอายุมากแล้วละมั้ง เพราะดูจาก พ.ศ. ในการเขียนก็เดาได้ว่า อายุคงรุ่นเดียวกับคุณปู่ คุณตา ผม
ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ก็ถึงได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับ ป.อินทรปาลิต มาก นับได้สามสี่เล่ม ที่แต่งขึ้นมาสำหรับ ลุง ป. โดยเฉพาะ ก็ถึงได้รู้จักท่านมากขึ้น และเป็นการเพิ่มรสชาติให้เราอ่านสามเกลอมากขึ้นอีกด้วยสิ อาจจะว่าผมเกิดทันพอจะรับรู้บรรยากาศเก่าๆ ตามที่ท่านเขียนไว้บ้าง ก็เลยยังพอรับรสของงานเขียนได้มากมาย
เทียบไป พ่อผมก็รุ่นเดียวกับลูกชายสามเกลอ ผมเองคงรุ่นเดียวกับลูกชายของลูกชายสามเกลออีกที คือ สินาด ลูกของสมนึก ต้องเรียกได้ว่า ลุง ป. เขียนหนังสือได้ตามเวลาจริงๆ ตัวละครแก่ลงไปตามเวลาที่เปลี่ยนไป แถมวางแปลนไว้ล่วงหน้าอีกต่างหาก ถ้าท่านไปจากไปเสียก่อน คงได้อ่านสามเกลอต่อไปอีกหลายร้อยตอนทีเดียวเชียว เท่านี้ก็่อ่านจนอินไปกับงานเขียนของท่านแล้วล่ะครับ อ่านจนเราเห็นภาพ นึกว่ามันเป็นจริงด้วยซ้ำ เหมือนกับตัวละครท่านมีตัวตนจริงๆ เพราะท่านคงเป็นนักเขียนคนเดียวในไทย ที่เขียนเรื่องจากความจริงตามสภาพสังคม ตามกาลเวลา และยังมีคนจริงๆ อยู่ในสามเกลอด้วย จนบางทีคนอ่านแทบจะแยกไม่ออกว่า อันไหนจริง อันไหนท่านจินตนาการขึ้น จัดว่าเป็นการเขียนที่ต่อเนื่อง และใช้เวลาในการเขียนมากจริงๆ แถมเนื้อหาและตัวละครยังมีการเติบโตขึ้นมาเหมือนคนจริงๆ ด้วยสิเอ้า...
เสน่ห์ตรงนี้ละมัง (นอกจากความตลก) ที่ทำให้สามเกลอไม่เคยหายไปจากแผงหนังสือ และจากใจคนอ่าน แบบกาลเวลาก็ไม่สามารถลบล้างสถิตินี้ไปได้
และจากประวัติท่าน ก่อให้เกิดแรงดลใจหลายๆ อย่างในการประกอบอาชีพของผม เนื่องจากผมก็ทำอาชีพใกล้เคียงกับท่านเหมือนกัน ยิ่งหลังๆ หันมาทำงานเขียนด้วย รู้สึกดีใจทีเดียว ที่ได้เฉียดใกล้กับอาชีพของ ลุง ป. แม้จะห่างไกลแบบคนละชั้นกับท่านก็ตาม แค่เฉียดๆ ก็ยังดีล่ะน่า แหะๆ
แม้แต่ท่านตาย ท่านก็ยังวางมุขตลกไว้ล่วงหน้าด้วย ... เช่นตัวละครในเรื่องชอบพูดว่า ถ้าตาย ให้ไปเผาที่วัดมกุฏ (เขียนชื่อวัดก็ผิดขออภัยนะครับ) มุขนี้จะใช้บ่อยมาก แล้วตอน ลุง ป.ท่านเสียชีวิตลงในวันที่ 25 ก.ย. 2511 งานศพท่านก็ยังจัดที่วัดมกุฏเลย ดูสิ ท่านเขียนให้มีส่วนร่วมจากหนังสือมาถึงชีวิตจริงได้ด้วย
ลุง ป. จากไป พร้อมกับสามเกลอก็จบสิ้นลงไปด้วย แต่กระนั้นท่านก็เขียนล่วงหน้าไว้ 1 ตอน คือ สู่อนาคต บรรยายถึงสามเกลอไว้ล่วงหน้าในอนาคต เรียกว่าท่านไม่ยอมพลาดเลยสักนิด คือมีทั้งขึ้นต้นและลงท้ายให้เสร็จสรรพ ว่ากันว่า สามเกลอตอนสุดท้ายจริงๆ ของท่านคือตอนเจ้าแห้วบวช เขียนก่อนเสียชีวิตไม่กี่วันเท่านั้นเอง..... และจริงๆ แล้ว ดูจากการเขียนสามเกลอของท่านหลายๆ ตอน ท่านคงรักเจ้าแห้วไม่น้อยทีเดียว ถึงกับจัดงานบวชให้ก่อนท่านจากไป
34 ปี ผ่านไป ... กับสามเกลอที่ถูกนำมาพิมพ์ใหม่เรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องให้คนรุ่นหลังได้อ่านกัน นับว่าเป็นนักเขียนคนเดียวในไทยก็ว่าได้ ที่ยังมีคนอ่านงานของท่านอยู่มาตลอด และมีการพิมพ์หนังสือซ้ำแล้วซ้ำอีก รวมถึงการนำต้นฉบับที่ไม่มีการพิมพ์ซ้ำ กลับมาทำใหม่อีกด้วย จึงพูดได้เต็มปากว่า ลุง ป. อินทรปาลิต คือนักเขียนที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของเมืองไทย และเขียนหนังสือได้ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนได้อย่างแน่นอน
(พิมพ์ผิด ตกหล่น หรือไม่สุภาพตรงไหน ขออภัยนะครับ เนื่องจากมันจะตีสี่เข้าไปแล้ว)
โดยคุณ : ble3d -
ICQ : 21526438
-
[ 25 ก.ย. 2002 , 4:18:23 น.]
|