ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ ตุณเตยย้ายบ้านกันมั่งป่าวครับ? ยังจำบ้านหลังแรกของคุณได้มั้ยครับ.....
วันนี้ได้มีโอกาสคุยกะสาวสวยเสียงหวานบางคน เป็นเวลาพอสมควร ทำให้เกิดแรงบันดาลใจสำหรับกระทู้นี้......
คุณเคยย้ายบ้านกันมั่งมั้ยครับ ในชีวิตนี้? คำถามนี้ถ้าย้อนถามมาที่ผม ก็คงได้คำตอบว่า เคยซิ.. ผมย้ายบ้านมาครั้งนึง ยังไม่รวมการไปอาศัยตามบ้านญาติๆ หรือหอพัก ในบางช่วงของชีวิต
บ้านหลังแรกของผม อยู่ในกรุงเทพฯ นี่เอง ตึกแถว 2 ชั้นเก่าๆ ในซอยส่วนบุคคลแคบๆ ชั้นล่างเป็นโรงกลึงเล็กๆ สกปรกๆ เต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่อ..น้ำมัน...และความทรงจำ....
ผมใช้ชีวิตตั้งแต่เกิด จนถึงอายุ 11 ปีที่นี่ บ้านหลังแรกในชีวิตของผม ตึกแถว 2 ชั้น 2 ห้องที่ตีทะลุถึงกัน ด้วยฝีมือคนในบ้านเอง กำแพงทะลุเกือบจะเหมือนในการ์ตูน เวลาที่ตัวการ์ตูนเดินทะลุกำแพงที่ไหนซักแห่ง.....
หมาตัวแรกของผมก็อยู่ที่นี่ มันชื่อเจ้านิล ไม่ต้องบอกคุณก็คงพอรู้นะ ว่าชื่อของมันมาจากสีขนของมัน..เจ้านิลเป็นหมาแก่แล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมรู้จักมัน ..ความทรงจำของผมกับมันเลยน้อยลง แปรผันตามความชราของมัน 1 ใน ความทรงจำนั้นก็คือในวันที่ไฟดับวันนึงของปีนั้น...ผมเดินอีท่าไหนไม่รู้ ไปเหยียบตัวมันเข้า แล้วมันก็ตอบแทนด้วยการกัดเข้าที่ขาผมเต็มแรงๆ....
ครั้งแรกในชีวิตที่ถูกหมากัด และความทรมาณหลังจากนั้นอีกเป็นอาทิตย์ๆ...แต่ในความทรงจำอันนั้นก็ถูกภาพของความทรงจำอีกอันแทรกเข้ามา.....หมาแก่ตัวนึง นั่งอยู่ข้างๆเด็กผู้ชายคนนึง กระดิกหางแผ่วเบา..สายตาจ้องมองเด็กคนนั้น ผมไม่รู้หรอกว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ผมรู้สึกได้ว่า มันกำลังเสียใจมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตมัน.......
ถนนในซอยผม ไม่ค่อยดีนัก เป็นหลุมเป็นบ่อ เพราะเป็นซอยส่วนบุคคล หลวงเค้าเลยไม่สามารถจะมาปรับปรุงอะไรให้ได้ ....ลองนึกภาพตามซิครับ ซอยๆนึง เมื่อคุณมองจากปากซอย ข้างซ้ายมือของคุณ ตั้งแต่ต้นซอยถึงกลางซอย เป็นแนวกำแพงยาวเหยียดของบ้านเจ้าของซอย....ขวามือของคุณเป็นดงตึกแถว 2 ชั้นเก่าๆ เรียงรายไปสุดสายตา หลังที่ 2 ที่ 3 จากปากซอยนั่นหละครับ บ้านผมเอง....
ท้ายซอย เป็นที่ๆผมไม่ค่อยได้เข้าไปนัก นัยว่าแม่ชอบเตือนเสมอๆ ว่ามีแต่เด็กเกเรนะลูก อย่าเข้าไป แต่ทำไงได้ครับ ก็ท้ายซอยเป็นที่ตั้งของร้านกาแฟ ที่ไม่ได้ขายแต่เพียงกาแฟนี่นา ยังมีขนมนมเนย สารพัด รวมไปถึงน้ำอัดลมสารพัดยี่ห้อ รอผมอยู่หนะ.......ผมเคยถูกเด็กเกเรแกล้งเอาครั้งนึง ตอนเดินไปซื้ออะไรซักอย่าง ที่ร้านกาแฟนั้น มันดึงแขนผมไม่ยอมให้กลับบ้าน ปากก็พร่ำแต่ว่า....รีบไปไหนเล่าๆ ผมคิดว่ามันน่าจะเข้าใจผิดอะไรซักอย่าง...ผมเป็นผู้ชายนา..ถึงจะหน้าตาดีกว่าเด็กผู้ชายทั่วไปก็เหอะ (อิอิ) ผมจำไม่ได้ว่าตอนนั้นใครมาช่วยผม....รู้แต่ว่าฉับพลันที่ผมสะบัดแขนหลุดจากการเกาะกุมของมันได้ ผมก็วิ่งอ้าวกลับบ้านทันที.....
ฟุตบอลกับผม ก็เริ่มขึ้นที่นี่ กลางดึกคืนนึงของเดือนมิย.ปี 1982 พ่อผมปลุกผมจากที่นอน เพื่อตื่นมาดูฟุตบอลโลก ระหว่าง บราซิล กับสหภาพโซเวียต นัดนั้นปราซิลชนะ 2-1 ....ผมมีลูกฟุตบอลเป็นของตัวเอง 1 ลูก ได้มาจากการเก็บเงินค่าขนมวันละ 1 บาท ตลอด 1 ปีเต็ม แต่เอาเข้าจริง วันที่ผมไปซื้อที่ร้านขายเครื่องกีฬา ผมไม่ได้ใช้เงินเก็บตัวเองซักบาท เพราะมันเป็นวันตรุษจีนพอดี....ผมเอามันไปโรงเรียนด้วยทุกวัน.แต่ จุ๊ๆ ต้องแอบแม่ผมนะ แกไม่ชอบที่ผมเล่นบอลหนะ ผมต้องเอามันไปซ่อนไว้ใกล้ๆกะประตูเหล็กหน้าบ้าน กินข้าวเสร็จ ถึงเวลาออกจากบ้านก็วิ่งตื๋อไปหน้าบ้าน แล้วหยิบออกไป โดยไม่หันหลังกลับ...
ตอนป.5 ผมเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน ผทเล่นเป็นโกล์..เราได้ไปแข่งบอลกรมพละรุ่นจิ๋ว 1 ครั้ง ทั้งสิ้น 3 นัด เพราะเราตกรอบแรก แต่ผมได้เล่นแค่นัดเดียว....ชีวิตการเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนตอนประถมของผม จบลงตอนที่ผมเอาเสื้อกางเกงฟุตบอลกลับมาซักที่บ้าน แล้วแม่มาเห็นเข้า แม่ให้เอาทุกอย่างไปคืน...แล้วไม่ให้ไปเล่นอีก
ผมเคยถามแม่ เมื่อวันเวลาผ่านพ้นมาเนิ่นนานปล้ว...จากวันนั้น ว่าเพราะอะไร แม่ไม่มีคำตอบให้ผม....ช่างมันเถอะ ผมไม่ค่อยรู้สึกอะไรแล้วหละ ตอนนี้
ความทรงจำกับบ้านหลังแรกของผม....ไม่รู้ซิ มันคงไม่มีจุดสิ้นสุด แม้ในความเป็นจริง วันเวลาเหล่านั้นจะผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม...แล้วคุณหละ จำบ้านหลังแรกของคุณกันได้มั้ยครับ?
โดยคุณ : เกลียมัว -
[ 8 มี.ค. 2002 , 1:20:03 น. ]
|