ตอบ
คัดลอกจาก http://www.bangkokbiznews.com/jud/wan/index.html
"คู่มือนักเขียน
10 ขั้นตอนที่ควรรู้ก่อนก้าวเข้าหา บ.ก.บงกช"
นักเขียนมือใหม่ ใจร้อนหลายคนอยากเห็นผลงานรวมเล่มของตนเร็วไว จึงหันหน้าออกจากระบบเข้าหาหนังสือมือทำ เขียนเอง วาดภาพประกอบเอง เป็น บ.ก.เอง ลงทุนเอง และใช้มือทำเอง...ขอแค่ให้มีคนอ่านผลงานนอกจากตัวเองก็พอใจแล้ว
แต่นั่นก็ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของจิตวิญญาณนักเขียน
สุขใดไหนจะเท่า...ได้เห็นผลงานของตัวเองเป็นรูปเล่มสวยงาม วางผงาดบนแผงหนังสือ
สุขใดไหนจะเท่า...ได้รับเช็คล่วงหน้า 3 เดือนค่าลิขสิทธิ์
ดังนั้นการที่สำนักพิมพ์ตกลงซื้อต้นฉบับของนักเขียนเพื่อตีพิมพ์เป็นหนังสือ จัดจำหน่ายอย่างเป็นระบบ จึงเป็นฝันที่ยิ่งใหญ่ของนัก (เริ่ม) เขียนทุกคน
แล้วจะเริ่มต้นอย่างไรล่ะ?
เป็นคำถามที่นัก (เริ่ม) เขียนทุกคนไขว่คว้าหาคำตอบ
เรามีให้คุณแล้ว
เราไม่ได้รับประกันว่าหากคุณทำตามแล้วต้นฉบับของคุณจะกลายเป็นหนังสือ แต่ทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอนที่ บ.ก.ทุกคนคาดหวังจากคุณก่อนที่ต้นฉบับของคุณจะมากองแอ้งแม้งบนโต๊ะทำงานของเขา
1.เขียนหนังสือ
หากคุณยังไม่ได้เขียนหนังสือสักเล่ม นี่ก็ไม่ใช่เวลาที่คุณจะมาถามว่าทำอย่างไรเรื่องของคุณจึงจะได้รับการตีพิมพ์ บ.ก.สนใจแต่ผลงานไม่ใช่แค่ความคิด บ.ก.ต้องการความมั่นใจว่าคุณมีทักษะในการเขียน มีความอดทน และมีวินัยที่จะเขียนหนังสือสักเล่มหนึ่งจนเสร็จสมบูรณ์
2.นิยามกลุ่มเป้าหมายของคุณ
หนังสือของคุณเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ใครคือกลุ่มที่คุณต้องการให้อ่าน นี่คือคำถามที่ บ.ก.จะถาม การตอบคำถามเหล่านี้ได้จะช่วยให้คุณเลือกสำนักพิมพ์ที่เหมาะสมได้ หากหนังสือของคุณเป็นนวนิยายก็ต้องตอบให้ได้ว่ามันจัดอยู่แนวไหน
3.สำรวจตลาด
สิ่งที่แย่ที่สุดคือการโทรศัพท์ไปหา บ.ก.สักคนแล้วถามว่าเขาสนใจหนังสือของคุณไหม คุณต้องสำรวจดูว่ามีสำนักพิมพ์ไหนบ้างที่พิมพ์หนังสือแนวเดียวกับที่คุณเขียน เดินสำรวจตามร้านขายหนังสือ จดรายชื่อสำนักพิมพ์ที่น่าจะเข้าได้ดีกับหนังสือของคุณ เช่น หากคุณเขียนวรรณกรรมเยาวชน แน่ล่ะ คุณต้องตรงไปเสนอเรื่องให้ บ.ก.ที่สำนักพิมพ์ผีเสื้อ เป็นต้น
4.ทำการบ้านของคุณ
ค้นหาสำนักพิมพ์ที่เชื่อถือได้ในวงการ ที่นั่นคุณจะได้พบที่อยู่ของสำนักพิมพ์ หรือ บ.ก.ที่คุณต้องการติดต่อด้วย
5.เตรียมต้นฉบับ
ทุกวันนี้ บ.ก.ส่วนใหญ่จะไม่เหลียวแลต้นฉบับที่ขาดการตระเตรียมมาอย่างมืออาชีพ ควรพิมพ์ผลงานด้วยกระดาษสีขาวหน้าเดียว หากเป็นลายมือควรเขียนด้วยลายมือที่อ่านง่าย และเว้น 2 บรรทัด
6.ส่งต้นฉบับ
ต้นฉบับหนาปึกอาจเย็บเล่มให้เรียบร้อยหรือติดตัวหนีบให้แน่นหนา จ่าหน้าซองให้ถูกต้องว่าจะส่งให้ใครอ่าน ปิดผนึกให้แน่น แต่อย่าให้ถึงขนาด บ.ก.ต้องเสียเวลา 20 นาทีเพื่อแกะซอง
7.แนบแสตมป์ด้วย
หากคุณต้องการทราบผลการพิจารณาอย่างรวดเร็ว ให้แนบไปรษณียบัตรจ่าที่อยู่ตัวเองไปด้วย บ.ก.ที่ไหนๆ ก็ไม่ใจจืดใจดำทำเมินเฉยกับคุณหรอก หากคุณเตรียมพร้อมให้เขาถึงขนาดนี้ และถ้าหากคุณต้องการให้เขาส่งต้นฉบับที่ถูกปฏิเสธคืนละก็ คุณต้องแนบซองติดแสตมป์ไปด้วย
8.ตั้งหน้าตั้งตารอ
อาจใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือน หรือหลายๆ เดือนกว่าจะทราบชะตากรรมของผลงาน คุณอาจหว่านผลงานไปยังสำนักพิมพ์หลายแห่งเพื่อเพิ่มโอกาส
9.ก้มหน้าก้มตาเขียน
ขณะรอฟังผลพิจารณาของต้นฉบับชิ้นแรก รู้นะว่าคุณแสนจะกระวนกระวายใจแค่ไหน จงเริ่มต้นเขียนงานชิ้นต่อไป หรือเขียนงานชิ้นเล็กๆ ประเภท บทความหรือเรื่องสั้น ปกิณกะต่างๆ เพื่อฝึกฝีมือให้แกร่ง และเป็นการเสริมสร้างชื่อเสียง
10.อย่ายอมแพ้
หากต้นฉบับไม่ผ่านการพิจารณา จงเพียรพยายามต่อไป ลองส่งไปยังสำนักพิมพ์อื่นๆ ที่ยังไม่ได้ส่ง ของพรรค์นี้ต้องใช้เวลา และความพากเพียร
จงจำไว้ว่านักเขียนที่ประสบความสำเร็จคือนักเขียนผู้ไม่ยอมแพ้ !!!! ๐
********************
เป็นคอลัมน์ประจำที่เพิ่งออกอากาศไปราวสองครั้งนะคะ และคงมีต่อเนื่องไปอีก
หาอ่านได้จากเว็บ http://www.bangkokbiznews.com/
ของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันเสาร์ส่วนแยก"จุดประกายวรรณกรรม" คอลัมน์คู่มือนักเขียนค่ะ
โดยคุณ : ิborn -
[ 19 ต.ค. 2544 , 13:06:46 น.]
|