ใครที่กลัวผีอย่าอ่านนะครับ...เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอก...
สามเกลอตอน .... "เปรตวัดหงส์"
............................
............................
คุณหญิงวาดลืมตาโพลง
"หา มันเป็นอะไรไปล่ะ ก็เมื่อวันอังคารเจ้าอั้นยังพาแกมาที่นี่"
ชิดยกหลังมือเช็ดน้ำตา แล้วพูดเสียงเครือ
"พี่ถูกผีที่วัดมันหลอกค่ะ"
ทุกคนสะดุ้งเฮือกไปตามกัน
"ถูกผีหลอก" นิกรร้องขึ้นด้วยเสียงอันดัง
ชิดหันมาทางนายจอมทะเล้น
"ค่ะ วันนั้นที่พาดิฉันมากราบเท้าท่าน พอกลับไปบ้านตอนกลางคืน พี่ไปดูโทรทัศน์บ้านทิดย้อยค่ะ กลับบ้านเกือบสองยามเดินผ่านวัด แล้วพี่ก็พบเปรตตัวหนึ่งยืนขวางหน้าอยู่ข้างโบสถ์วัดหงส์ พี่ตกใจวิ่งหนีย้อนกลับไปบ้านทิดย้อยค่ะ พรรคพวกทิดย้อยหลายคนพาพี่มาส่งบ้าน รุ่งขึ้นพี่อั้นก็ล้มเจ็บเป็นไข้ และเพ้อถึงผีสางตลอดวัน"
คณะพรรคสี่สหายและท่านผู้ใหญ่ ต่างมองดูหน้ากัน แล้ววิพากษ์วิจารณ์กันในเรื่องนี้ คุณหญิงวาดตื่นเต้นสนใจมาก ท่านได้ซักถามรายละเอียดจากภรรยานายอั้น ซึ่งชิดก็เรียนให้ท่านทราบตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในที่สุด คุณหญิงก็กล่าวกับทุก ๆ คน ด้วยความประหวั่นพรั่นใจว่า
"วัดหงส์เป็นวัดร้าง และเป็นวัดเก่าแก่ที่น่ากลัวมาก เพราะเมื่อก่อนนี้เคยเป็นที่ตัดหัวนักโทษ พวกชาวสวนที่นั่นโจษกันมานานแล้วว่า ผีตายโหงที่วัดนั้นดุที่สุด เคยหลอกคนถึงตาย หรือจับไข้หัวโกร๋นมามากต่อมากแล้ว"
ประไพพูดเสริมขึ้นเบา ๆ
"ถ้ายังงั้น คุณพ่อกับคุณอาก็คงเคยถูกผีที่วัดหงส์หลอกน่ะซีคะ"
สองเจ้าคุณทำปากจู๋พร้อม ๆ กัน เจ้าคุณปัจจนึก ฯ เอ็ดตะโรลั่น
"เปล่าโว้ย กบาลพ่อมันไม่มีผมมาแต่อ้อนแต่ออก"
คุณหญิงวาดกลั้นหัวเราะแทบแย่ ท่านเล่าเรื่องวัดหงส์ให้สี่สหายและสี่นางฟังต่อไป
"เมื่ออาไปซื้อสวนที่นั่นไว้ วัดหงส์มีพระภิกษุสามเณรราว ๓๐ รูป แล้วก็ลดจำนวนลงไปเรื่อย ๆ เพราะอยู่กลางสวนลึก พระท่านลำบากในเรื่องการบิณฑบาต แล้วท่านก็ย้ายไปอยู่วัดอื่น ขณะนี้มีพระจำพรรษาอยู่ที่วัดหงส์เพียงห้าหกองค์ ซึ่งทุกองค์ล้วนแต่เล่าเรียนวิปัสสนาไม่เดือดร้อนในเรื่องขบฉัน มีก็กินไม่มีก็ไม่กิน แล้วผีสางท่านก็ไม่กลัว แต่ละองค์ล้วนแต่มีเวทย์มนต์คาถาพอตัว จึงอยู่ที่วัดหงส์ได้"
กิมหงวนยกมือไหว้คุณหญิงวาดแล้วพูดขัดขึ้น
"ขอโทษนะครับคุณอา ขอให้ผมได้สัมภาษณ์แม่ประชิดสักประเดี๋ยว ผมสนใจเรื่องเปรตมากเพราะไม่เคยเห็น เคยเห็นแต่ผีเท่านั้น" แล้วกิมหงวนก็หันมาทางข้าเก่าของคุณหญิงวาด "ช่วยบอกฉันหน่อยเถอะแม่ประชิด เปรตน่ะรูปร่างหน้าตามันเป็นอย่างไร ได้ยินแต่เขาพูดกันว่าตัวมันสูงมาก"
ชิดสะอื้นเบา ๆ
"ดิฉันชื่อชิดเฉย ๆ อาเสี่ยเรียกดิฉันว่าประชิดมานานแล้ว"
อาเสี่ยหัวเราะ
"ฉันเห็นว่า ชื่อประชิดเพราะกว่าชิดเฉย ๆ ก็เลยเรียกแกว่าประชิด เล่าให้ฉันฟังหน่อยซี เปรตที่ตาอั้นพบมันน่ะเป็นอย่างไร"
พลพูดเสริมขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ
"เปรตมันก็สูงโย่งโก๊ะ เหมือนกับแกนั่นแหละ"
กิมหงวนหันมาทำตาเขียวกับนายพัชราภรณ์ ท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างครื้นเครง
"เขาจะพูดเป็นงานเป็นการ ทะลึ่งไม่รู้จักกาลเทศะ เดี๋ยวก็ยันเปรี้ยงเข้าให้เท่านั้นเอง" พูดจบอาเสี่ยก็เปลี่ยนสายตามาที่ภรรยาคนเฝ้าสวน "เล่าให้ฉันฟังหน่อยเถอะยายชิด"
ชิดว่า "ดิฉันก็ไม่เคยพบเห็นมันหรอกค่ะ เพียงแต่ทราบตามที่ชาวสวนเขาโจษกันว่า ที่วัดหงส์มีเปรตดำสองตัวผัวเมียปรากฏตัวในตอนดึก ๆ รูปร่างของมันสูงเกือบเท่าหลังคาโบสถ์เชียวค่ะ เปลือยกายตัวล่อนจ้อน ร้องกรี๊ด ๆ เที่ยวขอส่วนบุญ"
อาเสี่ยทำตาปริบ ๆ นิ่งฟังด้วยความสนใจ
"สูงเกือบเท่าหลังคาโบสถ์ ก็คงไม่ต่ำกว่า ๖ วา"
"ค่ะ เขาว่ากันว่าสูงขนาด ๖ วา"
เสี่ยหงวนขมวดคิ้วย่น
"๖ วา น่ะตัวเดียว หรือสองตัวผัวเมียต่อกัน"
"ตัวเดียวค่ะ ตัวผู้สูงกว่าตัวเมียนิดหน่อยค่ะ"
"แก้ผ้าทั้งสองตัว"
"ค่ะ"
"ว้า" เสี่ยหงวนคราง "มันไม่กลัวตำรวจจับหรือ แก้ผ้าเปลือยกายในวัดในวา มีความผิดฐานอนาจาร"
ภรรยาคนเฝ้าสวนยิ้มทั้งน้ำตา
"ตำรวจหรือคะ เมื่อเร็ว ๆ นี้ตำรวจกองตรวจสามคน เดินตรวจท้องที่ตามสวนผ่านไปทางวัดหงส์ ถูกเปรตสองตัวผัวเมียมันหลอก วิ่งไม่รู้ทางไปเชียวค่ะ ได้ข่าวว่าล้มเจ็บไปตามกัน......................
..........อ่านต่อได้ในห้องสมุดหนังสือเก่านะครับ....อ้อ ยังไง ๆ ก็เอาพระคล้องคอไว้ด้วยนะครับเพราะเปรตและผีวัดหงส์นี่ดุจริง ๆ ครับ ...
โดยคุณ : โก๋หลังวัง -
[ 20 ม.ค. 2544 , 12:08:02 น. ]
|