เฮฮากับสามเกลอ |
แน่นอนล่ะเมฆหมอกแห่งการนองเลือดจะต้องเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ภายในอาณาจักรน้อย ๆ ของบ้าน "พัชราภรณ์" บ้านที่มีเรื่องยุ่งตลอดศก
เป็นเวลาสองสัปดาห์แล้วที่เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ กับคุณหญิงวาดของท่านไม่พูดกัน และไม่ได้อยู่ร่วมห้องกัน คุณหญิงพาแม่เสือทั้งสี่มานอนที่เรือนคนใช้ บนตึกใหญ่เงียบเหงาในตอนกลางคืนมักจะมีก้อนอิฐขนาดใหญ่ถูกใครเหวี่ยงขึ้นไปบนตึก เป็นสัญลักษณ์ แห่งมิคสัญญีที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้
คุณหญิงวาดเตรียมการปฏิวัติอย่างเต็มที่
สาเหตุที่ประมุขแห่งบ้าน "พัชราภรณ์" จะแตกแยกกันก็เนื่องมาจากคุณหญิงวาดต้องการจะซื้อแหวนเพชรวงหนึ่ง ซึ่งเพื่อนคนหนึ่งของท่านมาเสนอขายให้ราคา ๕๐,๐๐๐ บาท เจ้าคุณประสิทธ์ ฯ คัดค้านชี้แจงว่าขณะนี้สถานการณ์ของโลกไม่สู้จะปลอดภัยนัก สงครามจะเกิดขึ้นในวันใดวันหนึ่งก็ได้ ควรจะเก็บเงินสดไว้ดีกว่าที่จะซื้อแหวนซึ่งไม่มีความจำเป็นอะไรนัก เท่านี้เองคุณหญิงวาดก็เป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที และเริ่มต้นตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับสามีของท่าน ยุยงส่งเสริมคนใช้ชายหญิงของบ้าน "พัชราภรณ์" ประมาณ ๒๐ กว่าคนให้กระด้างกระเดื่องต่อเจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ
แล้ววันนี้เอง ความตึงเครียดก็เกิดขึ้นจนถึงขีดสุดไม่มีสาวใช้คนไหนขึ้นมาทำความสะอาดกวาดบ้านถูเรือน ซักรีดเสื้อผ้า แม่ครัวไม่ยอมประกอบอาหารเหมือนเช่นเคย เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ เดือดดาลมากที่ท่านต้องอดอาหารเช้าและอาหารกลางวัน ในที่สุดท่านก็ใช้ให้กิมหงวนไปตามเจ้าแห้วมาพบกับท่านในห้องโถง ขณะที่ท่านกับเจ้าคุณปัจนึก ฯ พล ดร.ดิเรกนั่งสนทนากันอยู่ในห้องโถง
"จะเอายังไงกับกูโว้ย" เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ เอ็ดตะโรเจ้าแห้วเมื่อกิมหงวนพาเจ้าแห้วเข้ามาในห้อง แทนที่เจ้าแห้วจะทรุดตัวนั่งพับเพียบเรียบร้อยเหมือนเช่นเคย เจ้าแห้วกลับยืนกอดอกในท่าทางหยิ่งยะโส
"รับประทานใต้เท้าว่ายังไง" เจ้าแห้วพูดหน้าตาย
เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ เม้มปากแน่น
"กูอดข้าวมาตั้งแต่เช้าแล้ว"
เจ้าแห้วยิ้มด้วยมุมปากข้างซ้าย
"รับประทานยายอิ่มแกไม่ยอมทำกับข้าวครับ"
"ทำไมถึงไม่ยอม" เจ้าคุณปัจจนึก ฯ ถามขึ้นบ้าง
"รับประทานที่ไม่ยอมทำกับข้าวเพราะได้รับบัญชาจากคุณหญิงท่าน"
"อ้อ" เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ คราง "นี่หมายความว่าเมียข้าเขาสะไตร๊ค์ข้ายังงั้นเรอะ"
เจ้าแห้วหัวเราะ
"รับประทานอย่าเรียกว่าสะไตร๊ค์เลยครับ รับประทานเรียกว่าปฏิวัติดีกว่า รับประทานคุณหญิงท่านให้กระผมเรียนเตือนใต้เท้าว่า ถ้าใต้เท้ารับประทานไม่ยอมซื้อแหวนของคุณนายแสงให้ รับประทานใต้เท้าจะต้องประสบความยุ่งยากอย่างที่สุดในชีวิต"
เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ หัวเราะ
"หน๊อย ยายปากกระโถนจะมาทำไมข้า ไปบอกเถอะว่า ข้าไม่แคร์"
กิมหงวนพูดเสริมขึ้น
"อย่าพูดอะไรเลยอ้ายแห้ว เอ็งรีบเอารถไปหาซื้ออะไรมาให้คุณอาและพวกเรากินกันหน่อยหิวจะตายอยู่แล้ว ไก่ตอนสัก ๑ ตัว เป็ดย่างและจะซื้ออะไรอีกก็สุดแล้วแต่แก"
เจ้าแห้วสั่นศีรษะ
"รับประทานเสียใจครับอาเสี่ย คุณหญิงท่านสั่งผมไว้ว่าท่านคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์จะใช้ผมได้"
พลขยับเท้าจะถีบเจ้าแห้ว
"เดี๋ยวพ่อถีบเปรี๊ยงเข้าให้เลย"
เจ้าแห้วถอยหลังกรูด
"รับประทานการทำร้ายทูตที่มาเจรจาด้วย รับประทานเขาไม่ทำกันหรอกครับ" พูดจบเจ้าแห้วก็วิ่งจู๊ดออกไปจากห้อง
เจ้าคุณปัจจนึก ฯ หัวเราะหึ ๆ หันมามองดูเพื่อนรักของท่าน
"เจ้าคุณยอมซื้อแหวนเพชรวงนั้นให้คุณหญิงท่านเถอะครับ เงินเพียง ๕๐,๐๐๐ บาทเท่านั้น ไม่มากมายอะไรเลย"
เจ้าคุณประสิทธิ์สั่นศีรษะ
"ไม่ซื้อล่ะครับ ผมจะลองดีแม่เจ้าพลสักหน่อยดูซิว่าจะมีฤทธิ์แค่ไหน"
พลว่า "ถ้าคุณพ่อไม่อนุโลมตามใจคุณแม่ ผมคิดว่าต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่นอน"
"เกิดเป็นเกิดซีวะ พ่อรู้ดีว่าแม่แกเตรียมจะปฏิวัติยึดอำนาจการปกครองจากพ่อ แต่คนอย่างพ่อก็หนึ่งเหมือนกัน นองเลือดเป็นนองเลือด ตั้งแต่นี้ต่อไปห้ามไม่ให้คนใช้ชายหญิงคนใด ที่เป็นพรรคพวกยายคุณหญิงปากกระโถนขึ้นมาบนตึกนี้ บ้านช่องไม่มีใครทำความสะอาดก็ช่างมัน เมีย ๆ ของพวกแกน่ะ ประกาศตนเป็นศัตรูกับพ่ออย่างเปิดเผยแล้วรู้ไหม อ้ายแห้วก็พลอยไปด้วย แม้กระทั่งอ้ายบาบูก็ยอมร่วมมือกับคุณหญิงวาด เมื่อวานนี้พ่อกลับมาจากธุระ นั่งรถผ่านประตูบ้านเข้า อ้ายบังนั่งเฉยไม่ลุกขึ้นสลามพ่อเหมือนเช่นเคย"
พลหัวเราะหึ ๆ
"ถ้าเกิดปฏิวัติยึดอำนาจการปกครองขึ้น คุณพ่อจะสู้คุณแม่ไหวหรือครับ"
เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ ฝืนยิ้ม
"สู้ได้หรือไม่ได้ก็ต้องสู้ เพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของบ้านเรา มันจะฉิบหายสักเท่าไรก็ช่างมัน ใครจะมีอำนาจใหญ่ยิ่งในบ้านนี้มากกว่าพ่อไม่ได้เป็นอันขาด คอยดูนะพวกคนใช้ที่เป็นฝ่ายแม่ของแก พ่อจะปลดออกจากงานให้หมด"
นายพัชราภรณ์หันมายิ้มกับ ดร.ดิเรก
"ว่าไง หมอ"
ดร.ดิเรก อมยิ้ม
"กันเป็นแพทย์ กันตั้งตัวเป็นกลาง ถ้าการปฏิวัติเกิดขึ้น กันจะให้ความช่วยเหลือรักษาพยาบาลแก่ผู้เจ็บป่วยทั้งสองฝ่ายซึ่งถือว่าเป็นเพื่อนมนุษย์"
เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ ลุกข้นยืน เดินวนเวียนไปมารอบห้องโถง
"บา-บ่ายโมงกว่าแล้ว ยังไม่ได้กินอะไรรองท้องเลย"
พลอดหัวเราะไม่ได้
"ผมจะเอารถไปหาซื้ออาหารมาให้คุณพ่อนะครับโปรดรอผมสักครึ่งชั่วโมงเท่านั้น"
"เออ ดีแล้วลูก พ่อหิวจนลมออกหูแล้ว ไปซื้อแถวสามย่านนี่แหละ จะได้กลับมาเร็ว ๆ"
นายพัชราภรณ์ลุกขึ้น พาตัวเดินออกไปทางหน้าตึก เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ เดินออกมาทางหลังตึก แล้วท่านก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา เจ้าคุณปัจจนึก ฯ ดร.ดิเรก และอาเสี่ยกิมหงวนต่างลุกขึ้นวิ่งเหยาะ ๆ ออกมาทางหลังตึก ทุกคนทอดสายตามองไปทางหลังบ้านซึ่งมีเนื้อที่กว้างขวาง และแลเห็นสระใหญ่อย่างถนัดชัดเจน บนเรือนหลังเล็กที่เกาะลอยกลางสระ คุณหญิงวาดกำลังบงการให้คนใช้ชายหญิงช่วยกันลำเลียหีบห่อสัมภาระขึ้นจากเรือแคนูลำใหญ่ แม่เสือทั้ง ๔ ยืนอยู่ข้างหลังคุณหญิงวาด
"ฮึ่ม เห็นไหนล่ะอ้ายหงวน คุณหญิงเขาเตรียมเสบียงอาหารและกระสุนดินดำเป็นงานใหญ่ หีบใหญ่ที่กำลังยกขึ้นจากเรือต้องเป็นเครื่องกระจายเสียงแน่นอน อาหญิงของแกบุกอาแน่"
อาเสี่ยหัวเราะ
"ไม่เป็นไรครับ ถ้าการปฏิวัติเกิดขึ้นผมจะช่วยคุณอาเต็มที่ เพราะผมจะต้องถือว่าคุณอากับพรรคพวกเป็นฝ่ายจลาจล"
"เออ พูดอย่างงี้ค่อยยังชั่วหน่อย" แล้วท่านก็ยกมือตบบ่าเจ้าคุณปัจจนึก ฯ "ถ้ายังไงอย่าทิ้งผมเสียนะครับเจ้าคุณ"
เจ้าคุณปัจจนึก ฯ ยิ้มแห้ง ๆ
"ไม่ต้องกลัว ผมจะช่วยเจ้าคุณจนวินาทีสุดท้าย"
เจ้าคุณประสิทธิ์ ถอนหายใจหนัก ๆ ท่านรู้ฤทธิ์คุณหญิงวาดเป็นอย่างดี ถ้าลงฮึดขึ้นมาแล้วเป็นต้องมีเรื่องใหญ่โตทุกครั้ง
"เออ-หรือหนีดีโว้ย....." เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ พูดขึ้นเปรย ๆ "หนีไปเช่าโรงแรมอยู่สักพักแล้วค่อยกลับมาบ้าน".........................
All contents in this web site are intended for private use and educational purpose only. Our main objectives are to promote SamGler to cyberspace surfers and to memorize Por Intalapalit, one of the greatest writers in Thai fiction history.