เฮฮากับสามเกลอ |
"เป็นความจริงครับ คุณอาหญิง ชาวอินเดียซื่อสัตย์กตัญญูที่สุด ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง ง่า..มหาราชาองค์หนึ่งมีมหาดเล็กอยู่คนหนึ่ง ชื่ออับดุลอาหะเม็ดเป็นมหาดเล็กที่ซื่อสัตย์ที่สุด"
เจ้าบาบูยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
"อาหะเม็ดรูปร่างสูง ๆ น่ะ มีหนวด มีเครา กินโรตีจุ ผมรู้จักดีคะร๊าบ"
นายแพทย์หนุ่มพ่นต่อไป
"วันหนึ่ง มหาราชาองค์นั้นเสด็จออกล่าสัตว์กับบริวาร"
กิมหงวนถามเปรย ๆ
"ล่าสัตว์เดรัจฉานใช่ไหม"
"ออไรน์ ล่าสิงโต, แรด, วัวกระทิง มหาราชากับมหาดเล็ก 50 คน ได้บุกเข้าไปในป่าลึก ปีนข้ามภูเขาหิมาลัยทางธิเบต"
"มันจะมากไปกระมั้ง" พลขัดขึ้น
ดิเรกหัวเราะ
"เถอะน่า พยายามเชื่อกันก็แล้วกัน มหาราชากับมหาดเล็กเกิดหลงทางกระจัดกระจายไปคนละทิศ พระองค์กับอับดุลไปกัน 2 คนเท่านั้น ตามหาผู้ที่ติดตามจนค่ำก็ไม่พบ"
คุณหญิงวาดหัวเราะ
"ฮิ ฮิ ชักสนุก แล้วยังไง พ่อดิเรก แหมยังกะนิทานยุวชนเชียวนะ"
ดิเรกว่า "มหาราชากับอับดุลมหาดเล็กต้องนอนค้างอยู่ในป่าสูง และหลงป่าอยู่หลายวัน พระองค์ไม่ได้เสวยพระกระยาหารเลย มีหมูแผ่นติดตัวไปเล็กน้อยก็เสวยหมด ในที่สุดอับดุลก็ได้รับการขอร้องจากพระองค์ให้ไปหาอาหารมาให้ แต่บังเอิญเป็นฤดูแล้งผลไม้ในป่าหาไม่ได้เลย จะล่าสัตว์ป่าก็ไม่มีอาวุธ อับดุลทำยังไงรู้ไหมอ้ายเสี่ย"
เสี่ยหงวนขมวดคิ้วย่น
"จะไปรู้ได้ยังไงวะ กันไม่ได้ไปด้วยนี่หว่า"
ดร.ดิเรกแหงนหน้ามองเพดานแล้วหัวเราะลั่น
"อับดุลได้แสดงความซื่อสัตย์กตัญญูตัดแขนขวาของเขาย่างกับไฟให้สุก แล้วถวายมหาราชาเป็นอาหารเช้า พระองค์ก็ได้เสวยจนอิ่มหนำสำราญ แต่ในวันรุ่งขึ้นมหาราชาทรงพระหิวอีก อับดุลแนะนำให้เสวยหญ้าและใบไม้อย่างเขา พระองค์ก็ปฏิเสธ ในที่สุดอับดุลก็ตัดสินใจตัดแขนซ้ายอีกข้างหนึ่ง ย่างถวายพระองค์ไป"
"โถ" คุณหญิงอุทาน "น่าสงสารอับดุลมาก ตกลงเลยกลายเป็นคนแขนด้วน ต่อไปซิ พ่อดิเรก แหม..ฟังแล้วเศร้าสะดือไปหลายวัน เรื่องนี้เป็นคติดีมาก"
ดิเรกเล่าต่อไป
"พอย่างเข้าวันที่ 4 มหาราชาทรงหิวอีก และรับสั่งกับอับดุลตามตรงว่า เนื้อของอับดุลโอชะยิ่งกว่าเนื้อกวาง อับดุลก็แน่เหมือนกัน เขายอมตัดขาซ้ายของเขาออก แล้วย่างถวายมหาราชา เพื่อความกตัญญูกตเวทีของเขา"
เจ้าคุณปัจจนึก ฯ หัวเราะหึ ๆ
"โกหกละ ดิเรก แขนมันด้วน 2 ข้าง มันจะตัดขาของมันได้อย่างไรวะ"
"โถ..คุณพ่อเป็นโง่ ทำไมจะตัดไม่ได้ครับ อับดุลใช้เท้าขวาคีบดาบยกขึ้นฟันขาซ้ายของเขา ฟันอยู่หลายสิบทีกว่าจะขาด"
คณะพรรค 4 สหายถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อม ๆ กัน
นวลลออกล่าวขึ้นกับเพื่อนหญิงทั้งสาม
"เป็นอันว่านายอับดุลแขนด้วนทั้งสองข้าง และขาก็ด้วนไปอีกข้างหนึ่ง"
ดิเรกว่า "ด้วนหมดครับ ในวันรุ่งขึ้นพระองค์ทรงหิวอีก อับดุลก็ใจเด็ด ยื่นขาของเขาให้มหาราชาฟัน แล้วก็ทูลให้พระองค์ย่างกินเอง เพราะเขาไม่มีมือที่จะช่วยย่างขาของเขาให้พระองค์กินได้"
กิมหงวนจุ๊ย์ปาก
"แล้วยังไงอีก ทีนี้ถึงท่าจะตัดคอแน่"
"โน ไม่ทันตัด พวกมหาดเล็กได้ติดตามมาพบเสียก่อน ก็เลยพาพระองค์กับมหาดเล็กผู้ซื่อสัตย์กลับบ้านเมืองโดยสวัสดิภาพ พระองค์ทรงแต่งตั้งให้อับดุลเป็นแกรนวิเซีย แล้วประทานทองคำเท่าลูกฟักถึง 25 ลูกให้อับดุล ประทานนางข้าหลวงให้อีก 10 คน"
"ปู้โธ่" นิกรคราง "แข้งขาด้วนแล้วจะเอามาหาหอกอะไรกัน"
"อ้าว ก็เอามาเป็นเกียรติยศยังไงเล่า ต่อนั้นมามหาราชาได้ทรงรับสั่งให้ชาวเมืองปั้นรูปอับดุลไว้ทุกครัวเรือน แล้วส่งรูปปั้นที่ทำด้วยกระดาษส่งมาขายตามงานวัดในกรุงเทพ ฯ แกคงจะเคยเห็นแล้ว ตุ๊กตาที่ไม่มีแขนไม่มีขานั่นแหละ"
คุณหญิงวาดพูดเสริมขึ้น
"อ๋อ ตุ๊กตาล้มลุกใช่ไหม พ่อดิเรก"
"อ๋อไร๋น์ ถูกแล้วครับ ตุ๊กตาล้มลุกนี่แหละครับคือ ตัวอับดุลอาหะเม็ดขุนนางผู้ซื่อสัตย์ ความเป็นมาของตุ๊กตาล้มลุก ก็คือ อำมาตย์ของมหาราชาองค์นี้ ชาวอินเดียนับถือท่านอับดุลมาก เมื่อใคร ๆ สั่งสอนลูกหลานของเขาจะต้องยกท่านอับดุลขึ้นเป็นตัวอย่าง.....
All contents in this web site are intended for private use and educational purpose only. Our main objectives are to promote SamGler to cyberspace surfers and to memorize Por Intalapalit, one of the greatest writers in Thai fiction history.